เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
รณรงค์การเลือกใช้สินค้าปลอดสารพิษเพื่อลูกเด็กไทยแข็งแรง

วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทำไมโกรววิธเลิฟจึงเลือกนำเสนอรถเข็นและคาร์ซีทของตะวันตก

จะเลือกซื้อรถเข็นที่เบาเป็นปัจจัยแรกก่อนความสบายและความมั่นคงในการใช้งานของลูกน้อยจริงหรือ??

คาร์ซีทที่ใช้ได้ตั้งแต่เกิดจนโตหรือคาร์ซีทที่สามารถปรับนอนราบได้นั้นดีแล้วจริงหรื
อ??

ข้อคิดที่สามารถใช้ประกอบการเลือกรถเข็นเด็กที่ดี


1. รถเข็นที่ดีควรเลือกวัสดุที่แข็งแรงทนทานเป็นหลัก จะเป็นเหล็กก็แสนหนัก พลาสติกก็แสนจะเปราะบาง อะลูมิเนียมดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ คุณแม่ๆจะได้รับข้อมูลที่จำกัดโดยเฉพาะคนไทยส่วนใหญ่จะถูกปลูกฝังมาว่ารถเข็นต้องเบาไว้ก่อน ซึ่งแท้จริงแล้วน้ำหนักที่เบาไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักที่คุณต้องการมีรถเข็นไว้ใช้สอย หากแต่เป็นพาหนะหนึ่งที่คุณจะวางใจวางลูกน้อยบนนั้นตอนที่ไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคุณต่างหาก มาตรฐานและโจทย์ในการผลิตสินค้าประเทศนี้ของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความเข้มงวดและ life style ของผู้ใช้ในประเทศนั้นๆ

ผู้ผลิตญี่ปุ่นจะอิงจาก life style ของผู้ใช้เป็นหลัก เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับการโดยสารรถยนต์ของเด็กที่บัญญัติไว้ชัดเจนหรือกฎหมายบังคับการใช้คาร์ซีทที่เจาะจงเฉพาะและความเข้มงวดเท่าทางฝั่งตะวันตกที่ถือเรื่องความปลอดภัยของเด็กขณะโดยสารรถยนต์เป็นหลัก

คนส่วนใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นประมาณ 80 กว่าเปอร์เซ็นต์จะ 1. มีที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก เช่น คอนโดซะส่วนใหญ่พื้นที่ใช้สอยมีจำกัด 2. ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวขับ จะต้องคนมีฐานะรวยเท่านั้นจึงจะมีรถยนต์ ซึ่งต้องอาศัยพื้นที่บ้านเดี่ยว และการเช่าพื้นที่ในการจอดรถยนต์ตามที่ต่างๆ 3. แม่บ้านต้องเดินทางด้วยตัวเองโดยระบบโดยสารสาธารณะ สามีชาวญี่ปุ่นจะไม่ค่อยมีบทบาทหรือมีส่วนร่วมในการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านกับลูกน้อยทำให้แม่บ้านญี่ปุ่นจะต้องพาลูกน้อยพร้อมอุปกรณ์ต่างๆมากมายออกนอกบ้านด้วยตนเองทำให้ข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักของรถเข็นเรื่องของความเบาเป็นปัจจััยหลักที่ผู้ผลิตจะต้องเอามาเป็นโจทย์ ในการผลิตรถเข็นให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้ใช้ในประเทศ

ผู้ผลิตตะวันตกจะมีมาตรฐานที่สูงกว่าเนื่องจากมีกฎหมายบังคับใช้คาร์ซีทและบทบัญญัติทางด้านความปลอดภัยเพื่อเด็กที่เข้มงวดและชัดเจนมากกว่า จึงจะเห็นรูปลักษณ์หรือฟังก์ชั่นต่างๆที่ผู้่ผลิตในประเทศอเมริกาและยุโรปจะต้องออกแบบให้ได้มาตรฐานที่กฎหมายกำหนดทั้งยังจะต้องผ่านการทดสอบการกระแทกที่สามารถปกป้องชีวิตหนูน้อยได้จริงๆเมื่อใช้อย่างถูกวิธีซึ่งใกล้เคียงกันในแบรนด์ต่างๆแต่หน้าตาและฟังก์ชั่นจะแตกต่างจากทางฝั่งญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง

2. ควรเลือกรถเข็นที่มีฐานล้อกว้างและมีล้อใหญ่เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยของลูก ฐานล้อที่กว้างทำให้โอกาสการคว่ำน้อยกว่าหรือแทบไม่มี และสามารถรองรับน้ำหนักตัวของเด็กที่เพิ่มมากขึ้้นอย่างรวดเร็วได้จริง** ขึ้นชื่อว่าเด็กพอเริ่มรู้เรื่องก็ไม่อยู่เฉยแน่นอนหากรถเข็นไม่มั่นคงขณะที่เด็กมีการเคลื่อนไหวแบบไม่ยั้งคิดอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เมื่อรถเข็นของคุณมีฐานล้อที่แคบและมีล้อเล็ก

3. ควรคิดถึง life style ของคุณก่อนว่าแท้จริงแล้วเหมาะกับแบบใด ถ้าหากคุณต้องเดินทางเองคนเดียวกับลูก โดยใช้รถไฟฟ้าหรือรถโดยสารสาธารณะต่างๆเอง ข้อจำกัดของคุณแม่คงเหมาะกับรถเข็นขนาดเล็กและน้ำหนักเบาซึ่งจะมีความคล่องตัวและสมบุกสมบันกว่า แต่หากคุณมีรถยนต์ คนขับรถหรือพี่เลี้ยงไปไหนต่อไหนด้วยนั้น ความสบาย ความมั่นคงและปลอดภัยของลูกน้อยน่าจะเป็นโจทย์หลักสำหรับคุณ

การเลือกคาร์ซีทควรคำนึงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและการติดตั้งที่มั่นคงเป็นหลัก


ข้อคิดการเลือกคาร์ซีทที่ดีควรนำเสนอการป้องกันลูกน้อยของคุณเป็นหลัก

1. วัสดุภายในได้มาตรฐานและป้องกันชีวิตลูกน้อยของคุณได้จริง ไม่ได้ลดต้นทุนโดยการบุด้วยฟองน้ำ ผ้านวม หรือโฟมชนิดเดียวกับที่ใช้ผลิตกล่องใส่ข้าว เพราะไม่สามารถรับแรงกระแทกจากการเกิดอุบัติเหตุได้จริง
2. คาร์ซีทที่ดีควรออกแบบตามมาตรฐานสากลและสามารถติดตั้งในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดในรถยนต์คือ ที่นั่งตรงกลางเบาะด้านหลังคนขับ โดยหันหน้าเด็กไปทางด้านหลังของรถยนต์
3. ควรมีมาตรฐานการติดตั้งที่มีระบบแน่นอน มีมาตรที่สามารถใช้วัดระยะหรือความแน่นหนาของการติดตั้งได้ ไม่ได้ใช้การกะประมาณของผู้ติดตั้งแต่ละคนซึ่งจะแตกต่างกัน
4. สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อความสะดวกในการวางลูกน้อยวัยเล็กหรือการขึ้นลงคาร์ซีทของเด็กที่โตขึ้น
5. การออกแบบที่เหมาะสมกับสรีระของเด็กในแต่ละวัย บางครั้งคาร์ซีทเดียวใช้ได้ตลอดก็อาจไม่ดีเสมอไป ตามหลักวิทยาศาสตร์อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยส่วนใหญ่หากทำให้ครอบจักรวาล มักไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร หากต้องมีการเปลี่ยนก็ควรต้องเปลี่ยนไปตามระดับการเติบโตและวิวัฒนาการของสรีระเด็กเพื่อความปลอดภัยที่ออกแบบเฉพาะให้ปกป้องเด็กได้ตรงจุดในแต่ละวัย

**คาร์ซีทที่เคลมว่าใช้ตั้งแต่เด็กจนโตจึงเป็นทางเลือกที่คุณควรคิดอีกครั้ง เพราะจะมีแต่ของญี่ปุ่นเท่านั้น ในฝั่งยุโรปและอเมริกาจะเป็นแบบเปลี่ยนให้ตรงตามสรีระในแต่ละวัย

6.
คาร์ซีทแบบนอนราบไม่ปลอดภัยต่อเด็ก เนื่องจากจะไม่ใช่ท่ามาตรฐานที่จะสามารถปกป้องเด็กได้กล่าวคือจะไม่ปลอดภัยหากโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุขณะที่ปรับนอนราบคาร์ซีทอยู่ เพราะท่านอนราบผิดหลักด้านปลอดภัยของคาร์ซีทในกฎหมายสากล คาร์ซีทที่ดีควรจำกัดตำแหน่งการเอนไว้ที่ 45 องศาเท่าันั้น

ลิงค์ข้อเท็จจริงเรื่องนี้
http://www.cpsafety.com/articles/RFbasics.aspx

การปรับเอนนอนเพื่อการหลับบนรถคนขายส่วนใหญ่จะนำมาอ้างว่าช่วยป้องกันโรค SIDS (โรคไหลตายในเด็ก) ซึ่งไม่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์และการที่เด็กนั่งเอน 45 องศานั้นไม่ได้ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวแต่อย่างใด

ลิงค์ข้อเท็จจริงเรื่องนี้

http://www.sids.org/nprevent.htm,
http://en.wikipedia.org/wiki/Sudden_infant_death_syndrome )

ซึ่งเมื่อศึกษาจะพบว่าโรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อราบางชนิด จากสภาพแวดล้อมในบ้าน และอื่นๆ โดยจะไม่เกี่ยวกับการจะต้องให้เด็กอยู่ในท่านอนตลอดเวลา หากอยู่บนรถยนต์ควรให้เด็กนั่งในท่าที่ปลอดภัยที่สุดและสามารถปกป้องเด็กหากเกิดอุุุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักของการใช้คาร์ซีท

เราโกรววิธเลิฟ จึงนำเสนอสิ่งที่เรียกว่าคุณค่าที่แท้จริงให้กับคุณ โดยไม่บิดเบือนหรือเสริมเติมสิ่งใดๆที่ไม่ใช่ผลประโยชน์ที่แท้จริงในการใช้สินค้านั้นๆ

หากคุณต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อสินค้าสามารถติดต่อเราได้ที่ call center 02 701 4994

เราพร้อมบริการคุณ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น